เส้นทางคมนาคม

จังหวัดเพชรบุรี เป็นจังหวัดที่มีเส้นทางคมนาคมเชื่อมต่อกับภาคใต้และภูมิภาคภาคอื่น ๆ ของประเทศการเดินทางเข้าสู่จังหวัดทำได้หลายทาง ดังนี้

· ทางรถยนต์ สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวได้ 2 เส้นทาง คือ

- เส้นทางกรุงเทพฯ(ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี)–นครปฐม–ราชบุรี-เพชรบุรี ระยะทางประมาณ 166 กิโลเมตร

- เส้นทางกรุงเทพฯ (ธนบุรี-ปากท่อ)-สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม-เพชรบุรี ระยะทาง ประมาณ 123 กิโลเมตร

สำหรับการเดินทางโดยรถยนต์โดยสารประจำทาง มีรถปรับอากาศชั้น 1 ให้บริการจากสถานีขนส่งสายใต้ ดังนี้

กรุงเทพฯ – เพชรบุรี เวลา 05.00 – 21.00 น. รถออกทุก 30 นาที ใช้เวลา 2 ชั่วโมง

กรุงเทพฯ – ชะอำ เวลา 04.20 - 22.20 น. รถออกทุก 40 นาที ใช้เวลา 3 ชั่วโมง

กรุงเทพฯ – ท่ายาง เวลา 05.00 – 19.00 น. รถออกทุก 1 ชั่วโมง ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง

กรุงเทพฯ - บ้านแหลม วันละ 6 เที่ยว ตั้งแต่ 05.45 - 17.45 น. ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง

นอกจากนี้ยังมีรถยนต์โดยสารปรับอากาศชั้น 2 และรถโดยสารธรรมดา ออกจากสายใต้ใหม่ให้บริการ ตั้งแต่เวลา 05.00 – 20.00 น.

ในส่วนของการเดินทางภายในจังหวัด สามารถใช้รถโดยสารธรรมดาจากอำเภอเมืองฯ ไปยังอำเภอต่าง ๆ ได้ เส้นทางคมนาคมที่สำคัญในจังหวัดที่มีสภาพเป็นถนนลาดยางเชื่อมต่อระหว่างชุมชนต่าง ๆ ของอำเภอในจังหวัดเพชรบุรี มีดังนี้

ตารางที่ 1 แสดงหมายเลขทางหลวง เส้นทางคมนาคม และระยะทาง

หมายเลข	เส้นทาง	ระยะทาง (กิโลเมตร)
3171 3172 3173 3174 3175 3176 3177 3178 3179 3187 3499 3349	เพชรบุรี – เขาบันไดอิฐ ทางแยกอำเภอเขาย้อย – สถานีรถไฟเขาย้อย เพชรบุรี – เขาหลวง เพชรบุรี – บ้านท่า ท่ายาง – เขื่อนเพชร เพชรบุรี – บ้านแหลม (ฝั่งตะวันตก) เพชรบุรี – หาดเจ้าสำราญ เพชรบุรี – บ้านแหลม (ฝั่งตะวันออก) เพชรบุรี – บ้านลาด เพชรบุรี – ปึกเตียน เขื่อนเพชร – แก่งกระจาน แยกหนองควง - หนองหญ้าปล้อง	8 4 3 10 10 15 15 15 6 12 27 23

ทางรถไฟ มีขบวนรถขึ้น - ล่องผ่านจังหวัดเพชรบุรีวันละประมาณ 24 ขบวน ระยะทาง 167 กิโลเมตรจากกรุงเทพมหานคร สามารถขึ้นรถไฟได้ที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) และสถานีธนบุรี (บางกอกน้อย) สถานีรถไฟที่สำคัญในเขตจังหวัดเพชรบุรี คือ สถานีเขาย้อย สถานีเพชรบุรี และสถานีชะอำ

ทางอากาศ มีสนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากอำเภอชะอำ ประมาณ 20 กิโลเมตร หรือประมาณ 60 กิโลเมตรจากตัวจังหวัดเพชรบุรี

ทางน้ำ ด้วยเรือเดินทะเลจะทำให้สามารถติดต่อกับชายฝั่งทะเลตะวันออก เช่น พัทยา และจังหวัดชลบุรีได้ คาดว่าในอนาคตอันใกล้จะมีบริษัทเอกชนลงทุนในกิจการดังกล่าว ซึ่งจะทำให้จังหวัดเพชรบุรีเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งที่สำคัญอย่างยิ่งในภาคตะวันตก